BUNKA ART JOURNEY วันนี้พาทุกคนมารู้จักกับศิลปินก้องโลก VINCENT VAN GOGH  กับประวัติ และอะไรที่มีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจ ในการเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานของเขา จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ผ่านนิทรรศการ #VanGoghALiveBangkok ที่กำลังแสดงอยู่ที่ Attraction Hall, ชั้น 6 ไอคอนสยาม ​

สิ่งหนึ่งที่ครูน้ำ อยากนำเสนอในมุมมองของการไปดูงาน Van Gogh Alive Bangkok

“เมื่อเวลาผ่านไป มุมมองของคนเราก็มักจะเปลี่ยนไปตามแรงบันดาลใจอีกด้วย  จริงๆ แล้วความสำคัญของการมีตัวตนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดของศิลปิน  อีกเช่นเดียวกันการมีตัวตนได้ หมายถึง คุณต้องสร้างประสบการณ์มากๆ การที่เราได้ไปดูสิ่งอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงการเปิดโลกและมองโลกให้กว้าง หลังจากนั้น สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่อิน หรือสิ่งที่ไม่อิน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงว่า เราจะเหมือนคนอื่นไหม ถ้าเราเอาสิ่งที่ชอบมารวมกัน เป็นตัวของตัวเองได้เหมือนแบบที่คุณ VINCENT VAN GOGH ทำเหมือนกัน ซึ่งครูน้ำได้รับแรงบันดาลใจจากงานนี้ และประทับใจมากค่ะ”

ภายในงาน “Van Gogh Alive Bangkok”  เราจะได้เห็นผลงานศิลปะของวินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) ศิลปินระดับโลก Timeline ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วงท้ายของชีวิตที่นำเสนอในรูปแบบดิจิทัลอาร์ต

 

🎨 Realistic : The Potato Eaters

 

โดยช่วงแรกของชีวิต จะใช้สีค่อนข้างหม่น  รูปภาพเป็นเกี่ยวกับผู้คนใช้ชีวิตประจำวัน เพราะช่วงแรก VINCENT VAN GOGH มีความอินกับลัทธิ Realistic เพราะมีการเสพงาน Realistic ค่อนข้างเยอะ ส่วนอุปกรณ์ในส่วนยุคนั้นจะใช้สีธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งสีจะไม่สดเท่ากับสีเคมี ในช่วงนั้นยังไม่มีการพัฒนาสีเคมีขึ้นมา ทำให้งานในช่วงนี้ค่อนข้างไปทางสีโทนหม่นนั้นเอง

 

🎨 Olive Trees : Impressionist Style Art

 

หลังจากนั้น  ทรีโอ (Theo) น้องชายของ VINCENT VAN GOGH ชวนไปที่ปารีส ได้เปิดหูเปิดตา เห็นงานในมุมมองต่างๆ มากมาย และได้เข้าไปค้นพบกับลัทธิ Impressionist และผลงานชื้นนี้แหละที่ทำให้เรารู้จักVINCENT VAN GOGH ในฐานะศิลปินสายอิมเพรสชันนิสต์ หรือจะเรียกว่า ทรีโออิมเพรสชั่นนิสต์ได้เหมือนกัน เพราะภาพ อิมเพรสชันนิสต์ (Impressionist) มันคือการนำเอาทีแปรงมาวาด ซึ่งถ้าดูใกล้ๆ เราจะมองไม่ออกเลยว่าเป็นภาพวาดอะไร ต้องดูจากในที่ระยะไกล จะเห็นภาพกว้าง กลายเป็นภาพจริงขึ้นมา ซึ่งอันนี้เป็นจุดเด่นของภาพ Impressionist ที่ VINCENT VAN GOGH ประทับใจ

 

🎨  Irises : Apollo Slays Python

 

ในส่วนเรื่องของสี การใช้สีคู่ตรงข้ามมาจากที่ VINCENT VAN GOGH ประทับใจภาพของศิลปิน Eugène Delacroix (เดอลาครัว) ภาพ Apollo Slays Python  จะสังเกตได้จาก VINCENT VAN GOGH ชอบใช้สีคู่ที่ใช้ตรงข้ามในการสื่อสารภาพ อย่างเช่น ใช้สีคู่เหลือง-น้ำเงิน และ เขียว-แดง มากๆ ก็ได้รับ inspiration มาจากภาพที่ได้เห็นเหมือนกัน

 

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ….. สีที่ใช้ช่วงระยะหลัง สีจะมีความสดขึ้น คือการที่อุปกรณ์ในช่วงยุคนั้นได้รับการพัฒนาขึ้นมานั่นเอง เพราะมีการใช้เคมีในสีมากขึ้น สีดูสดขึ้น ทำให้ถูกใจสำหรับศิลปินหลายๆ คน เช่น การใช้สี Chrome Yellow สีเคมีที่สดกว่าสีธรรมชาติ แต่ในยุคนั้น ยังไม่มีคนที่รู้ว่าการใช้สีเหล่านี้ หรือแม้กระทั่งจากสารปรอท มีพิษและส่งผลกระทบในระยะยาว

 

🎨  Starry Night

 

 

ภาพญี่ปุ่นมาได้อย่างไร……VINCENT VAN GOGH อินกับความเป็นญี่ปุ่นมาก เพราะได้เห็นภาพพิมพ์ไม้แกะสลัก และชื่นชอบมาก  จึงได้ดึงมาเป็น inspiration ในการสร้างผลงานค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น การตัดเส้นดำในงาน ไม่มีเงา หรือการวาง composition แปลกๆ ภาพเหล่านั้นมาจากความชื่นชอบศิลปะโทนเดียวกับญี่ปุ่น หรือการที่ย้ายไป เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส ก็ให้เหตุผลว่า เพราะฉันอยากได้บรรยากาศแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นในภาพที่ฉันเห็นนั่นเอง
.

>>> เป็นอย่างไร กันบ้างคะ กับผลงานที่สร้างชื่อของ VINCENT VAN GOGH ที่แสดงถึงตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี และผลงานวาดรูปที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่มากมาย
>>> ขอแนะนำ ถ้าใครรู้ประวัติ หรืออ่านศึกษาประวัติก่อนเข้าไปชมงานจะสนุกกับงานนี้มากค่ะ

สำหรับใครที่สนใจงาน Van Gogh Alive Bangkok
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :https://www.iconsiam.com/en/events&activities/van-gogh-alive-bangkok

#BunkaArtJourney #art #journey #vangogh #vangoghalive #vangoghalivebangkok #vincentvangogh #exhibition #immersiveart #experience #painting